คนจีนที่เกิดที่เกาะภูเก็ต เราจะเรียกคนจีนกลุ่มนี้ว่า “บาบ๋า” ในความหมายก็คือ กลุ่มลูกครึ่งมลายูพื้นเมือง-จีน ที่ผสมผสานกันทางสายเลือดและวัฒนธรรม ที่มักเห็นอยู่ในย่านเมืองเก่าภูเก็ตโดยส่วนใหญ่
คุณจุ๋ม อรสา โตสว่าง แขกรับเชิญขึ้นปก OPM.ฉบับส่งท้ายปี 2019 เราจะเรียกขานและนับเป็นอีกหนึ่งคนในกลุ่ม “ชาวบาบ๋า” ก็ไม่น่าแปลง เพราะเธอได้ประกาศชัดว่า ตัวเธอนั้น เป็นหญิงสาวที่มีสายเลือดจีนสืบสายมาโดยตรงจากชาวจีนอพยพ ที่เดินทางมาจากมณฑลฮกเกี้ยนตอนใต้ของประเทศจีน โดยคุณทวดของเธอได้รับพระราชทานนามสกุลว่า ตัณฑเวส และทายาทในรุ่นที่ 3 ดองกับอีกตระกูล คือ “หงษ์หยก”
นี่คือ..เรื่องเล่าแบบฉบับ “ย่อๆ” ของคุณจุ๋มที่แนะนำตัวเองให้เราได้รู้จัก จริงๆตัวตนที่แท้จริงนั้น..ถ้าจะเล่าก็ได้อีกหลายเรื่อง โดยคาแรกเตอร์แบบชัดเจน ก็คือ เป็นเด็กขยันแต่ไม่ได้ชอบเรียนหนังสือ อึดอัดมากกับชีวิตในห้องเรียนที่ครูสั่งให้อยู่ในกรอบ ดองการบ้าน ชอบเป็นหัวหน้าแก๊งค์ สนุกกับการแก้ปัญหา จนหลายครั้งป๋า (คุณพ่อ) เคยบอกว่า “ชีวิตเมืองฝรั่งอาจจะเหมาะกับลูกมากกว่ารึเปล่า ฯลฯ (บลา..บลา ประมาณนี้)
30 ปีผ่านไป คุณจุ๋มกลับมาทำความรู้จักกับคนภูเก็ตอีกครั้ง กับโครงการ “บริษัทประชารัฐรักสามัคคี” ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของจิตอาสาภูเก็ตร่วม 10 คน หยิบเอาอัตลักษณ์ที่กำลังค่อยถูกลืมเลือนไปกลับมาสร้างชื่ออีกครั้ง “สับปะรดภูเก็ต” ซึ่งได้รับเสียงตอบที่ดีเกิดคาด จนแตกลูกแตกหลานเป็นขนมนมเนยจากสบปะรดภูเก็ตมากมาย “ภูเก็ตล้อปเตอร์”กลับมาแข็งแรงและกลายเป็นแบรนด์ที่เชิดหน้าชูตาให้เกาะภูเก็ตได้เป็นที่รู้จักของนักกินทั่วโลก
“จี้สาว” คุณอรพินท์ หงษ์หยก พี่สาวที่โตมาด้วยกันกับคุณจุ๋ม บอกให้มาช่วยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยคุณอ๊อด-คุณโอ๊ค (สัจจ-บรรลุ หงษ์หยก) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่กำลังจะเนรมิตอังมอหลาวตากอากาศของอาจ้อหลวงอนุภาษภูเก็ตการ ต้นตระกูลหงษ์หยก ที่บ้านสวนพร้าว หาดไม้ขาว โจทย์โปรเจคนี้มีอยู่นิดเดียวแต่ยากมากๆ คือสานฝันให้จี้สาว และปั้น 2 ศรีพี่น้อง ให้กลายเป็นเจ้าของโรงแรมที่รีโนเวทจากอังมอหลาวตากอากาศอายุ 83 ปี ให้กลายเป็นโรงแรมที่สวยคลาสสิคสุดโรแมนติกที่สุดสมกับเป็นเรือนหอของอาก๊อง-อาม่า ในชื่อว่า “บ้านอาจ้อ”
“บ้านนี้ทำให้จุ๋มเจอพรสวรรค์ใหม่ของตัวเอง ทำไปทีละนิดๆ จบแล้วบ้านโรแมนติกมากเลยนะทั้งๆที่ไม่เคยเรียนออกแบบมาก่อน” เจอบ้านอายุ 83 ปี รกร้าง ตอนเริ่มต้นก็งงๆ แต่ก็คิดว่า “เอาวะ..!! ทุกอย่างต้องมีก้าวแรกและมารไม่มีบารมีไม่เกิดสิ่นะ” จุ๋มตั้งต้นจากสิ่งที่เห็นตั้งแต่เกิดในอังมอหลาวที่เคยคุ้นเคยเอากลับมาวางที่เดิม เพิ่มสิ่งที่อยากให้มันเป็นตามที่เราฝันเข้าไป นัวๆกับรสนิยมที่ได้จากการเดินทางมากว่าครึ่งโลก ค่อยๆต่อจิ๊กซอทีละจุดโดยมี อ๊อดกับโอ๊คเหลนสายตรงของอาจ้อตันจิ้นหงวนและเพื่อนๆเค้าหลายคนทำให้มันเกิดได้อีกแรง “วันนี้..บ้านอาจ้อ กลับมาสวยกว่าเดิม อาก๊องบอกแบบนั้น”
จากวันนี้จนถึงวันนี้ ร่วม 3 ปี กับการขัดสีฉวีวัน แต่งเนื้อแต่งตัวให้กับบ้านอาจ้อ ให้กลายเป็น “ห้องรับแขก” อีกห้องหนึ่งของคนภูเก็ต สำหรับการเนรมิตบ้านอาจ้อ คุณจุ๋มกล่าวแบบยิ้มๆปริ่มด้วยความสุข ว่า กว่าจะผ่านมาจนถึงวันนี้ ก็เจอะเจอกันมาหลากหลายอารมณ์และความรู้สึก ส่วนตัวแล้ว งานประจำก็มี งานบ้านอาจ้อก็ต้องมา พอถึงวัน ท้อๆ จะนึกถึงคำสัญญาที่ให้ไว้กับ “อาก๊อง” ที่บอกทุกครั้งที่เจอกันว่า “จุ๋มอย่าทิ้งน้องนะลูก”
“และมากไปกว่าคำกระซิบของอาก๊องคือคำอวยพรของอาจ้อ ในวันแรกที่อ๊อดกับโอ๊คพาเข้ามาที่บ้านหลังนี้ ลมเย็นๆตอนใกล้ค่ำ ในบ้านทั้งมืด ทั้งชื้น ทั้งรกร้าง กว่าจะเดินดูรอบบ้านที่เต็มไปด้วยขี้นก หนาแน่นไปด้วยอยากไย่ ติดหัวเต็มไปหมด แต่ความวังเวงในค่ำวันนั้น จุ๋มรู้สึกอบอุ่นในหัวใจบอกไม่ถูก แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่า หรือนี่..คือคำอวยพรจากอาจ้อ ที่อาจจะรอคอยให้พวกเรามาซ่อมสร้างบ้านหลังนี้อีกครั้ง”
นี่คือเรื่องราวทั้งหมดของ “คุณจุ๋ม” อรสา โตสว่าง ที่พร้อมกลับมาปั้นฝันและสร้าง “บ้านอาจ้อ” ให้เป็นบ้านเก่าที่สวยสุดโรแมนติกของเกาะภูเก็ตตลอดไป