ผ่านไป..ผ่านมา ถนนสายเทพกษัตรี มุ่งหน้าจังหวัดพังงา ก่อนถึงด่านท่าฉัตรไชยเพียงไม่กี่ร้อยเมตร มองซ้าย เห็นบ้านพักตากอากาศที่รกร้างมานานหลายปี วันนี้..ได้รับการตกแต่งหน้าตา แต่งเนื้อแต่งตัวใหม่หมดจด พร้อมถูกตั้งชื่อว่า “บ้านอาจ้อ” ซึ่งคำว่าอาจ้อ ในภาษาของคนภูเก็ต แปลว่า “คุณทวด” บ้านของคุณทวด โอววว..!! ช่างสวยงามคลาสสิกปานฉะนี้
“บ้านอาจ้อ” ถูกรีโนเวทให้กลับมาสวยงามมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ด้วย 2 แรงแข็งขันจาก “เหลนอาจ้อ” รุ่นที่ 4 คุณอ๊อด และคุณโอ๊ก (คุณสัจจ-คุณบรรลุ หงษ์หยก) โดยยังคงไว้ซึ่งบรรยากาศและเรื่องราววิถีชีวิตในปีค.ศ.1936 ได้อย่างครบถ้วน โดยปรุงแต่ง 8 ห้องหลักของบ้านหลังนี้ ให้กลายเป็นห้องพักสุดแสนโรแมนติก เติมสีสันและเพิ่มเสน่ห์ความเป็นเพอนารากัน ไว้รอรับแขกไปใครมาที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยือน
ซึ่งสถาปัตยกรรมการสร้างบ้านในปี ค.ศ.1936 นั้น โครงสร้างห้องนอนจะมีขนาดเล็ก ทำให้การเลือกใช้เตียงนอนขนาด Queen Size ตามแบบอังกฤษอาจจะทำให้ห้องดูคับแคบไปนิด แต่ก็ทำให้นอนได้ 2 คนสบายๆ ไม่อึดอัด สำหรับห้องน้ำ ไม่ได้มีไว้อยู่ในห้องนอนตามแบบโบราณ แต่ห้องนำด้านนอกตรงระเบียงหลังบ้านก็ดีไซน์ให้มีความเรียบหรู สะอาดสะอ้านเหมาะกับการใช้งาน เจ้าของบ้านมีความเชื่อว่า หากผู้เข้าพักได้เดินด้วยเท้าเปล่า สัมผัสพื้นไม้เก่าที่ขัดมันอย่างปราณีตออกจากห้องนอนไปยังห้องน้ำเพียงไม่กี่ก้าว จะรับรู้การใช้ชีวิตประจำวันของคนในยุคนั้นได้จับใจทีเดียว
นอกจากห้องพักในยุคเหมืองแร่เฟื่องฟูแล้ว ในส่วนของห้องอาหาร “โต๊ะแดง” ก็ร้อนแรงได้ใจ ด้วยการเปิดครัวโบราณ บริการอาหารเช้า อาหารกลางวัน รวมไปถึงอาหารเย็นที่หรูหราสง่างามตามนิยามของผู้ดีอังกฤษ แต่เสิร์ฟอาหารจานอร่อยแบบ “บ้านๆ” ไม่ว่าจะเป็น แกงส้มกุ้ง ที่สุดร้องแรงถึงเครื่อง หรือจะเป็น มัสมั่นไก่ ที่ข้นคลั่กหอมเตะจมูก กินคู่กับ ไข่เจียวปู ที่ไม่หวงเนื้อปู และที่ต้องห้ามพลาด “ผัดไทยกุ้ง” อร่อยที่ที่เส้นผัดไทยที่นุ่มกำลังดี ไม่เหนียว และไม่อืดจนเละเสิร์ฟพร้อมผักเคียงแบบแน่นๆ และตบท้ายด้วย ชาดำเย็น สูตรโบราณ แค่นี้..ก็เติมเต็มวิถีชีวิตในวันวานได้อย่างสุขใจเลยทีเดียว
“บ้านอาจ้อ” รอให้ทุกท่านได้แวะเวียนไปเปลี่ยนการใช้ชีวิตในแบบสงบงามท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิก