การที่เราก้าวสู่ความเป็นผู้บริหารในขณะที่อายุยังน้อย สิ่งหนึ่งที่จะต้องมีไว้รอเลยก็คือ การพยายามทำตัวให้เล็กที่สุด รู้น้อยที่สุด เก่งน้อยที่สุด ที่สำคัญที่สุดคือการพยายามทำตัวเองให้พร้อมตลอดเวลาที่จะน้อมรับความรู้จากผู้หลักผู้ใหญ่ พร้อมรับความรู้จากสังคมที่เราออกไปใช้ชีวิต ทำให้ตัวเองเป็น “น้ำไม่เต็มแก้ว” สังคมปัจจุบันสร้างนิสัยให้เราก้มดูโทรศัพท์มากขึ้น แต่การที่เราเงยหน้าทักทายกันบ้าง หยุดพูดคุยกันบ้าง แม้เพียงเวลาแค่ 3 นาที ที่เราได้คุยกัน อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้หลายๆอย่างเลยทีเดียว
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว OPM. มีโอกาสได้สัมภาษณ์พุดคุยกับ คุณนมนต์ นฤขัตพิชัย ในฐานะ Sale & Marketing โรงแรม Hotel IKON ย่านกะรน ตอนนั้นคุณนมนต์ เพิ่งสำเร็จการศึกษาจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็มาเริ่มต้นทำธุรกิจโรงแรมตามรอยคุณพ่อ ที่นั่งเก้าอี้ผู้บริหารอยู่หลายโรงแรมในขณะนั้น
จากวันนั้นเราก็ได้พบเจอกันบ้างตามงานสังคมต่างๆของจังหวัดภูเก็ต จนถึงวันนี้ OPM.ฉบับเดือนกรกฎาคม 2562 ได้ต้อนรับคุณนมนต์อีกครั้งในคอลัมน์ Cover Interview การพูดคุยสัมภาษณ์ก็ยังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความสดใสร่าเริงในแบบฉบับของ Empower Women ผู้หญิงในแบบฉบับของ “คนรุ่นใหม่” อย่างแท้จริง
“3 ปีที่ผ่านมา เรียนจบปริญญาโทปุ๊บ ก็มาทำงานที่โรงแรม Hotel IKON กะรน ปั๊บเลย กับหน้าที่ Marketing Manager โฟกัสที่ตลาดออนไลน์ 3 ปีที่ผ่านมาถือว่าโอเค โรงแรมเดินไปได้แบบค่อนข้างมั่นคง ทั้งเรื่องการขาย การให้บริการ กลุ่มลูกค้าที่เข้าพัก ซึ่งฐานลูกค้าก็จะมีทั้งคนไทยและคนต่างประเทศในกลุ่มของนักท่องเที่ยวเอเชีย ก็มีความอยู่ตัวประมาณหนึ่ง ก็เลยหมดห่วงและเริ่มมองหาโปรเจคอื่นๆทำเพิ่มเติม”
เมื่อเริ่มมองหาโปรเจคอื่นๆ จุดเริ่มต้นของการเข้ามาเป็น “ผู้บริหาร” ก็ได้เกิดขึ้น ณ จุดนี้เองกับการได้รับโอกาสจากครอบครัว ให้เข้ามาดูแลวิลล่าระดับ 5 ดาว ในนาม “Villa Zolitude Resort and Spa Phuket” โดยเริ่มต้นจากการเข้ามาดูแล Sale & Marketing ตามความถนัดที่มีอยู่ เข้ามาวิเคราะห์ตลาดว่าอยู่ในระดับไหน ยังพัฒนาได้อีกเท่าไร ในรูปแบบของ Outsource ช่วงแรกของการเข้ามาบริหารเลือกใช้กลยุทธ์ที่เคยพัฒนา Hotel IKON แล้วได้ผลทางการตลาด ก็คือการเชิญดารา เชิญผู้ที่มีชื่อเสียงเข้ามาใช้บริการที่วิลล่า และทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากกลุ่มคนที่เชิญเป็นอย่างดี และจากการรีวิวทางออนไลน์ของคนกลุ่มนี้ก็เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น จำนวนผู้ติดตามใน IG ของวิลล่า เพิ่มขึ้น 8 เท่าภายใน 6 เดือน ตั้งแต่เข้ามาจับการตลาดออนไลน์ จากตัวเลขผู้ติดตาม 2 พันกว่า เพิ่มขึ้นเป็น 1.7 หมื่นกว่าๆ
จากความสำเร็จในการเข้ามาทำการตลาดและเห็นผลตอบรับที่ชัดเจน ก็ทำให้อยากที่จะเข้ามาบริหารวิลล่าอย่างเต็มตัว ได้คุยกับคุณพ่ออย่างจริงจัง ก็ได้รับอนุญาต ก็ย้ายเข้ามาดูแล Villa Zolitude Resort and Spa Phuket แบบเต็มตัว ซึ่งนอกจาก Sale & Marketingแล้ว ก็ยังดูแลในส่วนของ Operation และส่วนอื่นๆ เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่โรงแรมระดับ 5 ดาวจะเป็นได้
สำหรับการบริหารโรงแรมทั้ง 2 โรงแรมนี้ ก็จะมีส่วนที่ต่างและส่วนที่เหมือนกัน คือ ในส่วนของ IKON นั้น เริ่มจากความใหม่หมดทั้งหมด ทั้งส่วนบริหาร ทั้งส่วนปฏิบัติการ ทิศทางการทำงานก็จะค่อนข้างไปพร้อมๆกันได้ง่าย และด้วยความที่คอนเซปโรงแรมเป็นโรงแรมที่ทันสมัย โมเดิร์น ค่อนข้างที่จะวัยรุ่น พนักงานทุกคนก็จะสดใสอยู่ในวัยที่พร้อมจะก้าวไปสู่ความทันสมัยใหม่ๆ แต่ในส่วนของ Villa Zolitude Resort and Spa Phuket เป็นโรงแรม 5 ดาวที่อยู่มา 11 ปีแล้ว การให้บริการในส่วนต่างๆก็จะมีความเรียบหรู ดูมีระดับ เนิบๆช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป แต่ทั้งนี้การสร้างระบบบริหารก็ไม่น่าที่จะแตกต่างกันมากนัก ซึ่งไม่ว่าหน้าบ้านจะเป็นอย่างไร หลังบ้านก็จะเหมือนกันหมด เพราะฉะนั้นสิ่งที่ยากสำหรับตัวเองก็คือ “การสร้างระบบ” สร้างอย่างไรให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ และก้าวไปสู่ความสำเร็จพร้อมๆกัน
แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความว่า Flexible ต้องพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน และเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆกับแนวทางการบริหารของเรา มันเป็นความท้าทายหนึ่งที่ไม่ยากจนเกินและไม่ง่ายซะทีเดียว จริงๆลึกๆแล้ว ก็ยังมีความกลัวอยู่เหมือนกันว่า การที่เราเป็นคนรุ่นใหม่ เราจะสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้มากน้อยแค่ไหน จะมีคนเชื่อ และยอมรับฟังความคิดเห็นของเราหรือไม่ เพราะบางครั้งเราก็รู้สึกว่าเค้าเห็นด้วย คล้อยตาม ในความคิด แต่ในทางปฏิบัติก็ยังไม่ทำบางครั้งก็ต้องใช้ใจแลกใจ และทำให้เค้ายอมรับเราด้วยวิธีการของเรา”
ด้วยความเราที่เราอายุน้อยและเป็นผู้หญิง บางทีการยอมรับจากเพศตรงข้าม หรือคนที่อายุมากกว่านั้น ก็ยังมีน้อย แต่มันก็คือความท้าทายอีกหนึ่งเรื่องว่า จะทำอย่างไรให้คนกลุ่มนี้ ยอมรับเราและเลือกที่จะเดินเข้ามาทำงานกับเรา โดยหลักๆ จะเลือกใช้หลักในการบริหารจัดการชีวิตแบบ Work life balance และมองว่าการเป็นผู้หญิงทำงานที่จะเดินไปสู่ความสำเร็จนั้น ไม่ได้วัดกันที่การทำงานวันละหลายๆชั่วโมง แต่มันวัดกันที่ การประสบความสำเร็จในงานที่ทำ และชีวิตส่วนตัวก็ยังสามารถดำเนินไปได้อย่างมีความสุข ได้ทำในสิ่งที่อยากทำมากกว่า
นอกจากเรื่องเครียดๆ เรื่องหนักๆจากการทำงานแล้ว คุณนมนต์ ก็ยังให้เวลากับงานอดิเรกเล็กๆ ด้วยการเป็นอินฟลูเอนเซอร์(Influencer) บอกเล่าเรื่องของที่กิน ที่เที่ยว และกิจกรรมยามว่างของตัวเอง ผ่านทางเฟสบุ๊กเพจ(FacebookPage) “My Southern Trail” กับภาพสวยๆของอาหาร เครื่องดื่ม สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมผ่อนคลายในวันหยุดของตัวเองอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังเติมเต็มสุขภาพที่ดีกับการออกกำลังกายรูปแบบใหม่ Cross Fit เพื่อสร้างความพร้อมให้กับตัวเองในการลุยงานและโปรเจคในแต่ละวันอีกด้วย